วันนี้ (15 พ.ค.) หลังจาก นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (โฆษก ศบค.) แถลงอัปเดตสถานการร์ประจำวันแล้วนั้น

วันนี้พบป่วยเพิ่ม 7 ราย! รวมไทยติดเชื้อโควิด-19 สะสม 3,025 ราย

ต่อมา นพ.ทวีศิลป์ เปิดเผยถึงมติจากที่ประชุม ศบค. ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุม เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาว่า ที่ประชุมมีมติให้ดำเนินมาตรการผ่อนปรน ระยะที่ 2 ซึ่งเป็นกลุ่มกิจการ/กิจกรรม ที่อยู่ในกลุ่มสีเขียว ซึ่งประกอบด้วย
กลุ่มแรก กิจการ/กิจกรรม ที่มีความจำเป็นในการดำเนินชีวิตประจำวัน ดังนี้
ก. จำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มในภัตตาคาร ศูนย์อาหาร ร้านเครื่องดื่ม ในอาคารสำนักงาน 
ข. ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า คอมมิวนิตี้มอลล์ ยกเว้น ฟิตเนส โรงหนัง โบว์ลิ่ง ศูนย์พระเครื่อง
ค. ร้านค้าปลีกค้าส่งอื่นๆ 
ง. ร้านเสริมสวย (ย้อมผม ดัดผม กิจกรรมอื่นๆ ในเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง) และร้านทำเล็บ
กลุ่มที่สอง กิจกรรมด้านออกกำลังกาย และการดูแลสุขภาพ
ก. คลีนิกเวชกรรม เสริมความงาม คุมน้ำหนัก
Advertisementข. สนามกีฬา เฉพาะกีฬากลางแจงตามกติกาสากล เล่นเป็นทีม (ไม่เกินทีมละ 3 คน) โดยไม่มีผู้ชม
ค. สวนดอกไม้ สวนพฤกษศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ แกลลอรี่ (เข้าเป็นรายคน) 
ง. นวดแผนไทย (เฉพาะนวดเท้า)
กลุ่มที่สาม กิจกรรมอื่นๆ
อาทิ – การประชุมภายในและภายนอกองค์กร การบรรยาย แต่ต้องจำกัดจำนวนผู้ข้าร่วมตามขนาดสถานที่

  • ห้องสมุดสาธารณะ
  • การถ่ายทำรายการ โฆษณา ถ่ายแบบ ถ่ายคลิป แต่ต้องมีผู้เข้าร่วมไม่เกิน 50 คน
    ทั้งนี้ ที่น่าสนใจก็คือ การเปิดห้างสรรพสินค้านั้นทุกแห่งจะต้องเปิดและปิดพร้อมกันในเวลา 10.00-20.00 น. นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติให้ขยับเวลาห้ามออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิวจากเวลา 22.00-04.00 น. เป็นเวลา 23.00-04.00 น.
    โดยการเปิดกิจการและกิจกรรมดังกล่าวข้างต้นคาดว่าจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 17 พ.ค. เป็นต้นไป แต่อย่างไรก็ตาม รายละเอียดทั้งหมด นพ.ทวีศิลป์ระบุว่าต้องรอให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาก่อน ซึ่งคาดว่าน่าจะประกาศในช่วงเย็นวันนี้หรือเช้าวันพรุ่งนี้